กระบวนการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบ Game based learning




กระบวนการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบ Game based learning
          กระบวนการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบ Game based learning โดยผู้จัดทำสรุปขั้นตอน/กระบวนการของการสอนรูปแบบ Game based learning ตามแนวคิดของ Guido (2016) ได้กล่าวถึงกระบวนการจัดการเรียนการสอนไว้ 5 ขั้นตอนดังนี้

ขั้นที่ 1  กำหนดวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้
          การกำหนดขอบเขตเนื้อหาที่ชัดเจน จะช่วยให้สามารถเลือกใช้เกมได้เหมาะสมกับรูปแบบการเรียนการสอนมากขึ้น โดยก่อนใช้เกมควรพิจารณา ดังนี้
-          Intervention หากนักเรียนไม่เข้าใจเนื้อหาในบทเรียน ผู้สอนอาจลองใช้เกมเพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง เกมที่เลือกควรมีความเหมาะสมกับผู้เรียนทั้งทางด้านเนื้อหาและลีลาการเรียนรู้ของผู้เรียน
-          Enrichment เกมควรมีความหลากหลายและสร้างความท้าทายให้กับผู้เรียนในการเรียนรู้วิธีการใหม่ๆ
-          Reinforcement เกมมีคุณลักษณะที่หลากหลายนอกจากจะสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนแล้ว  ยังเป็นการเสริมสร้างเนื้อหาในบทเรียนได้อีกด้วย พร้อมทั้งสร้างปฏิสัมพันธ์ให้กับผู้เรียน
หากผู้สอนจัดการเรียนการสอนให้ได้ตรงตามที่กล่าวมา จะส่งผลให้กระบวนการเรียนการสอนสอดคล้องความต้องการของครูและนักเรียน
ขั้นที่ 2 ทดลองการใช้เกม เมื่อเลือกเกมที่เหมาะสมกับผู้เรียนแล้ว ผู้สอนจำเป็นต้องนำเกมไปทดลองใช้เพื่อศึกษาข้อมูล  ดังนี้
-          บทบาทของครูที่มีความเหมาะสม เป็นคนที่คอยกระตุ้นให้นักเรียนได้ทดลองทำได้ฝึกฝนและชมเชยเมื่อผู้เรียนทำถูกต้องเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ
-          ความสามารถในการใช้งาน ควรใช้งานได้ง่าย มีความท้าทาย
-          การมีส่วนร่วม เนื้อหาและวิธีการนำเสนอจะเป็นตัวกำหนดการมีส่วนร่วมของนักเรียน
-          ประเภทเนื้อหา เพื่อรองรับรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายเกมควรมีเนื้อหาประเภทต่างๆ
-          ระดับเนื้อหา เพื่อระบุจุดปัญหาและความถนัดที่หลากหลายเกมควรใช้หลักการสอนที่แตกต่างเพื่อปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เล่นแต่ละคน
การพิจารณาเกมตามขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าเกมนี้เหมาะสมและสอดคล้องกับเป้าหมายการเรียนรู้ที่ที่ตั้งไว้
     ขั้นที่ 3 ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อเกม เมื่อนำเกมไปทดลองใช้ ต้องมีการตรวจสอบความพึงพอใจของผู้เรียนจากแบบสอบถามความพึงพอใจ เพื่อดูความเหมาะสมในด้านต่างๆของเกม ตามความคิดเห็นของผู้ใช้งาน
    ขั้นที่ 4 ปรับปรุงและพัฒนาเกม จากการนำเกมไปทดลองใช้ ผู้สอนจะต้องนำข้อบกพร่องนั้นมาแก้ไข ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเรียนรู้และผู้เรียน

    ขั้นที่ 5 ประเมินรูปแบบการสอนโดยใช้ game-based learning โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเกมที่นำไปทดลองใช้ เพื่อนำมาเทียบกับเกณฑ์การประเมินที่ตั้งไว้

นอกจากนี้ ภาสกร ใหลสกุล (2558) ได้กล่าวถึงกระบวนการใช้ Game Based Learning ไว้ว่า
ขั้นที่ ๑ เสาะหาแหล่งทรัพยากรต่างๆ เป็นการสำรวจสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียน เพื่อดูถึงสิ่งที่อำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมหรือข้อจำกัดในด้านต่างๆ เพื่อที่จะสามารถจัดกิจกรรมได้สอดคล้องกับบริบทภายในห้องเรียน
ขั้นที่ ๒ ศึกษาและเลือกเกมที่เหมาะสม  เมื่อสำรวจสภาพแวดล้อมแล้ว จะต้องหาเกมที่มีความสอดคล้องและเหมาะสม กับบริบท โดยสามารถจำแนกประเภทของเกมตามแนวคิดของ Lovell(1971: 166-167) ได้ ๓ ประเภทดังนี้
      ๒.๑ เกมเบื้องต้น (Preliminary Games) เป็นเกมที่สนุกสนาน การเล่นมีแบบแผน มีความสัมพันธ์กับความคิดรวบยอดน้อยมาก เหมาะสำหรับเด็กอนุบาลหรือเด็กเล็ก ๆ
      ๒.๒ เกมที่สร้างขึ้น (Structured Games) เป็นเกมที่สร้างขึ้นอย่างมีจุดมุ่งหมายที่แน่นอน การสร้างเกมจะสร้างไปตามความคิดรวบยอดที่สอดคล้องกับเนื้อหาของบทเรียน
      ๒.๓ เกมเพื่อฝึกหัด (Practice Games) เกมนี้จะช่วยเน้นความเข้าใจมากยิ่งขึ้น การจัดเกมดังกล่าวควรเริ่มต้นเป็นขั้นตอน ตั้งแต่เกมเพื่อความสนุกสนานจนถึงเกมที่มีเนื้อหาซับซ้อน โดยเฉพาะเนื้อหาที่เด็กทำความเข้าใจได้ช้า
ขั้นที่ ๓ ทดลองการใช้เกม หลังจากศึกษาและเลือกเกมที่เหมาะสมแล้ว ต้องทดลองเล่นเกมนั้นซ้ำๆ จนเกิดความเข้าใจและสามารถอธิบายได้ว่า เกมนี้ช่วยกระตุ้นเด็กๆในการเรียนรู้ได้อย่างไร      ขั้นที่ ๔ หาแหล่งสนับสนุนช่วยเหลือ เนื่องจากผู้พัฒนาเกมทางด้านการศึกษาโดยตรงมีจำนวนน้อยโดยเฉพาะในประเทศไทย โดยเว็บไซต์ที่ช่วยสนับสนุนทั่วไปและให้ความรู้เรื่องเกมในห้องเรียน อันได้แก่ Playful Learning และ Educade  ซึ่งเว็บทั้งสองนี้มีทั้งบทความ วิดีโอ และอื่นๆ ที่จะช่วยคุณสรรสร้างการนำเกมมาช่วยในการสอน ตัวอย่างเข่นการใช้เกม Quandary  มาสอนในเรื่องจริยธรรม และการใช้เกม Angry Birds มาใช้การสอนวิชาฟิสิกส์เบื้องต้น  และในเว็บนี้ก็จะช่วยรีวิวเกมต่างๆ เพื่อเลือกในการนำมาใช้ช่วยสอนในวิชาต่างๆ
จากที่กล่าวมาข้างต้นโดยอ้างอิงจากนักวิชาการในประเทศและต่างประเทศ ผู้เขียนสรุปได้ว่ากระบวนการของ Game Base Learning มีขั้นตอนดังนี้

          ขั้นที่ 1 ศึกษาบริบทโดยรวมทั้งด้านสภาพแวดล้อม ความต้องการของผู้เรียน ขอบเขตเนื้อหา วัยของผู้เรียน
          ขั้นที่ 2 กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งการกำหนดขอบเขตเนื้อหาที่ชัดเจน จะช่วยให้สามารถเลือกใช้เกมได้เหมาะสมกับรูปแบบการเรียนการสอนมากขึ้น
          ขั้นที่ 3 สร้างเกมที่มีความสอดคล้องกับบริบทที่ศึกษาและวัตถุประสงค์ที่ตั้งขึ้นโดยประเภทเกมที่ผู้เขียนได้นำมาใช้ใน Game Base Learning คือประเภทเกมที่สร้างขึ้น (Structured Games) โดยมีขั้นตอนการออกแบบเกมในการเรียนการสอนตามแนวคิดของ วารินทร์ รัศมีพรหม (2531:185) ดังนี้
         
 ขั้นที่ 4 นำเกมที่สร้างไปทดลอง  โดยทดลองทั้งกลุ่มผู้สร้างและกลุ่มตัวอย่าง  เพื่อสร้างความเข้าใจและหาข้อบกพร่อง พร้อมทั้งศึกษาความพึงพอใจเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนา
 ขั้นที่ 5 นำไปใช้จริงและประเมินผลการใช้งานตามวัตถุประสงค์

        ทั้งนี้การจัดการเรียนการสอนแบบ Game based learning ผู้สอนสามารถปรับเปลี่ยนขั้นตอนให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละสถานการณ์ เพื่อให้การจัดการสอนเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด  เนื่องจาก Game based learning เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่ยังไม่แพร่หลายในไทย  ดังนั้น ผู้ใช้จะต้องศึกษาข้อดีและข้อจำกัดตามหัวข้อถัดไป





แหล่งอ้างอิง :
        ภาสกร ใหลสกุล. (2558). Digital Game base learning เรียนๆ เล่นๆ สร้างความเป็นเลิศ . ฉบับนิตยสาร DMA
         Marcus Guido./“5 Steps to Implementing Game-Based Learning in the Classroom.”/Ryerson University,2016

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น